คอมพิวเตอร์ทั้ง 10 รูปแบบในปัจจุบัน

1: PC หรือ คอมพิวเตอร์ส่วนตัว

คำว่า PC นั้นย่อมาจาก Personal Computer ซึ่งมีความหมายว่ามันคือคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาให้คนใช้เป็นของส่วนตัว
ถึงแม้ว่าเครื่อง Mac จะเป็น PC ชนิดหนี่ง คนส่วนมากใช้คำว่า PC กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows เท่านั้น
คนรู้จัก PC ครั้งแรกด้วยชื่อ microcomputer เพราะว่าพวกมันเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติทำงานได้ครบถ้วน และมีขนาดที่เล็กมาก เมื่อเทียบกับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในธุรกิจส่วนมาก


2: Desktop หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

คอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ออกแบบมาโดยเน้นการขนย้ายนั้นคือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
ถ้าเราพูดถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะนึกถึงคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งไว้อย่างฐาวร เช่นบนหรือใต้โต๊ะทำงาน เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะส่วนใหญ่จะมีความเร็วในการประมวลผล ความจุข้อมูล และสามารถปรับแต่งได้มากกว่า คอมพิวเตอร์ชนิดพกพา

3: Laptop

หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โน๊ตบุ๊ค
แล็บทอปคือคอมพิวเตอร์ชนิดพกพาที่มี หน้าจอแสดงผล แป้นพิมพ์ อุปกรณ์ควบคุมลูกศร ชิปประมวลผล หน่วยความจำ และแหล่งจ่ายไฟฟ้าเช่น แบตเตอรี่ อยู่ในตนเอง
ส่วนใหญ่แล็บทอปจะมีขนาดใหญ่กว่าหนังสือปกแข็งทั่วไปเล็กน้อย

4: Netbook

เน็ทบุ๊คคือคอมพิวเตอร์ที่เน้นการพกพาที่มีขนาดเล็กกว่าแล็บทอปทั่วไป
นอกจากนั้นพวกมันยังมีราคาที่ถูกกว่าด้วยราคาประมาณ 8000 ถึง 16000 บาท
แต่ก็ต้องแลกด้วยอุปกรณ์ภายในที่มีความเร็วน้อยลงและขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า

5: PDA

คำว่า PDA นั้นย่อมาจาก Personal Digital Assistant หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า
ผู้ช่วยหรือเลขาธิการดิจิทอลส่วนตัว
พวกมันคือคอมพิวเตอร์ที่รวมอุปกรณ์ไว้ในขนาดที่เล็กซึ่งสามารถพกพาได้ง่าย
ส่วนใหญ่ PDA จะเก็บข้อมูลทั้งหมดของมันไว้บนชิพความจำ
ต่างจากคอมพิวเตอร์ธรรมดาที่มักจะเก็บไว้บนฮาร์ดดิส ซึ่งเป็นจากแม่เหล็ก
คอมพิวเตอร์พวกนี้มักจะไม่มีแป้นพิมพ์ แต่จะใช้เทคโนโลยีจอสัมผัสในการรับคำสั่งจากผู้ใช้
ขนาดของ PDA ส่วนใหญ่จะไม่ใหญ่เกินหนังสือนิยายขนาดเล็กๆ
หรือประมาณ 1 ใน 3 ของกระดาษ A4 และมีน้ำหนักเบา
พร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานพอสมควร
PDA ที่มาขนาดใหญ่กว่า PDA ทั่วไป ส่วนมากจะถูกเรียกว่า handheld computer
หรือ คอมพิวเตอร์มือถือ

6: Workstation

คอมพิวเตอร์อีกรูปแบบหนึ่งคือแบบ Workstation
Workstation ก็คือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือที่เรียกว่า Desktop computer ที่มีความเร็วในการประมวลผลที่เหนือกว่า
พร้อมกับหน่วยความจำที่มากกว่าและความสามารรถอื่นๆเพิ่มเติมตามการใช้งาน เช่นหน่วยประมวลผลทางกราฟฟิคสำหรับนักพัฒนาเกมส์คอมพิวเตอร์

7: Server

เครื่องเซอเวอร์คือ คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการให้บริการทางด้านต่างๆกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในระบบ
ส่วนใหญ่เครื่องเหล่านี้จะมีชิปประมวลผลที่มีความเร็วมาก หน่วยความจำที่ใหญ่ รวมถึงพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลเช่น ฮาร์ดดิสที่มีความจุมากอีกด้วย

8: Mainframe


ในยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ เครื่อง Mainframe คือคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่มาก พอที่จะใส่จนเต็มห้องหรือชั้นหนึ่งของอาคารได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ขนาดของชิ้นส่วนต่างๆก็ลดลง รวมถึงมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
ทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เท่านี้อีกต่อไป
แต่ในปัจจุบัน คำว่า Mainframe ก็ยังคงใช้อยู่ แต่ความหมายจะเปลี่ยนไปเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ตามบริษัทใหญ่ที่ใช้ในการประมวลผล
การซื้อขายและบัญชีเป็นล้านๆครั้งทุกๆวัน


9: Supercomputer

คอมพิวเตอร์ชนิดนี้ส่วนใหญ่มีมูลค่ามหาศาลตั้งแต่หลายแสนถึงหลายสิบล้าน
ถึงแม้ว่า Supercomputer บางเครื่องจะเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เครื่องเดี่ยว
ส่วนใหญ่พวกมันจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงหลายๆเครื่องที่ประมวลผลคู่ขนานกันเป็นระบบเดียว
เครื่อง Supercomputer ที่รู้จักกันส่วนใหญ่นั้นประกอบขึ้นโดยบริษัท Cray Supercomputers

10: คอมพิวเตอร์สวมใส่


วิวัฒนาการใหม่ล่าสุดของคอมพิวเตอร์คือคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถสวมใส่ได้
ส่วนใหญ่คอมพิวเตอร์เหล่านี้จะสามารถใช้งานโปรแกรมทั่วๆไปที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเช่น อีเมลล์ ปฎิทิน การรับชมสื่อต่างๆได้
ตัวอย่างของคอมพิวเตอร์ที่สามารถสวมใส่ได้คือ นาฬิกาข้อมือคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือแบบสวมใส่ได้ ห
รือแม้แต่เสื้อผ้านที่มีคอมพิวเตอร์ฝังอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น